ชิบะในนานาชาติ

ขณะที่กระแสโลกาภิวัตน์กำลังขยายตัว จังหวัดชิบะได้รวบรวมกำลังสำคัญและทรัพยากรที่หลากหลายมีความภาคภูมิใจในระดับโลกเอาไว้ เพื่อเดินหน้าสร้างเขตท้องที่ที่ผู้คนและวัฒนธรรมอันหลากหลายจากทั่วโลกจะสามารถอยู่ร่วมกันได้ด้วยวิสัยทัศน์ที่ว่า "ชิบะในนานาชาติ"

1.สร้างเมืองแห่งวิทยาการนานาชาติโดยความร่วมมือของหน่วยงานอุตสาหกรรม การศึกษาและภาครัฐ

ในเขตท้องที่คาชิวะและนางาเรยามะที่มีสายรถไฟทสึคุบะเอ็กซ์เพรสเปิดทำการในเดือนสิงหาคม ปี 2005 เป็นแหล่งรวมของสถาบันวิจัยและมหาวิทยาลัยระดับต้นของโลกอย่างเช่น มหาวิทยาลัยโตเกียวและมหาวิทยาลัยชิบะ ฯลฯ และยังมีบริษัทร่วมทุนที่วิจัยและพัฒนาคิดค้นเทคโนโลยีล้ำสมัยเกิดขึ้นจำนวนมาก

มหาวิทยาลัยและท้องที่ได้ร่วมมือกันอย่างแข็งขันในการสร้างเมืองในธีม "เมืองแห่งสิ่งแวดล้อม สุขภาพ การสร้างสรรค์และการแลกเปลี่ยน" ในฐานะศูนย์กลางแห่งภูมิปัญญาได้มีการนำเอาฟังก์ชั่นของอุตสากรรมกรรมและที่อยู่อาศัย ฯลฯ มาผสมผสานกัน โดยใช้ข้อได้เปรียบเรื่องธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และตำแหน่งที่ตั้งที่อยู่ใกล้โตเกียว

2.สร้างเมืองในบริเวณโดยรอบสนามบินนานาชาตินาริตะ

สนามบินนานาชาตินาริตะและพื้นที่บริเวณโดยรอบ มีผู้โดยสารระหว่างประเทศราว 40% และการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศราว 60% ที่เดินทางเข้าออกประเทศญี่ปุ่นมาใช้บริการ โดยมีจำนวนผู้โดยสารสายการบินระหว่างประเทศราว 30 ล้านคนต่อปี และปริมาณการขนส่งสินค้าราว 2 ล้านตันต่อปี ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น

นอกจากนั้น จากการที่จะมีการจัดงานกีฬาโตเกียวโอลิมปิก พาราลิมปิกในปี 2020 ทำให้ต่อไปญี่ปุ่นจะเป็นที่จับตามองจากทั่วโลก บทบาทของสนามบินนานาชาตินาริตะในฐานะประตูแห่งญี่ปุ่นที่เชื่อมต่อกับ 107 เมืองทั่วโลกจะยิ่งเพิ่มความสำคัญขึ้นเรื่อยๆ

สนามบินนานาชาตินาริตะ มุ่งหน้าโดยมีเป้าหมายที่จะได้รับเลือกให้เป็นสนามบินที่นอกจากจะเปิดอาคารผู้โดยสารเทอร์มินัล 3 สำหรับสายการบินต้นทุนต่ำโดยเฉพาะในปี 2015 แล้ว ยังจะมีการปรับปรุงพื้นที่ช้อปปิ้งต่างๆ ใหม่อีกด้วย

พื้นที่โดยรอบของสนามบิน มีจุดท่องเที่ยวที่ให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่นจำนวนมาก จึงมุ่งมั่นที่จะประชาสัมพันธ์ข่าวสาร พร้อมๆ กับจัดเตรียมช่องทางการเดินทางมายังสนามบินนาริตะ รวมไปถึงดำเนินการรวมเอาอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ระหว่างประเทศมารวมกัน เพื่อเพิ่มเสน่ห์ในฐานะที่เป็นเมืองแห่งท่าอากาศยานขึ้นไปอีกระดับ

*ข้อความบรรยายเกี่ยวกับจำนวนผู้โดยสารและปริมาณการขนส่งสินค้า เป็นตัวเลขในปี 2014 (รายงานสำรวจสถานการณ์การควบคุมดูแลสนามบิน, ข้อมูลสถิติ ACI)

*จำนวนเมืองที่เป็นเส้นทางปลายทางเป็นข้อมูล ณ ตอนเริ่มตารางบินฤดูร้อนปี 2016

3.มาคุฮาริ นิวซิตี้ - เมืองธุรกิจระหว่างประเทศแห่งอนาคต ตั้งอยู่ห่างจากโตเกียวและสนามบินนานาชาตินาริตะราว 30 นาที

มาคุฮาริ นิวซิตี้ เป็นตัวแทนของญี่ปุ่นด้านศูนย์การประชุม มีศูนย์กลางคือมาคุฮาริเมสเสะ พรั่งพร้อมไปด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ มากมาย เช่น สำนักงาน, สถานที่ทางศาสนา, ที่พัก, สวนสาธารณะ, ศูนย์การค้า และสวนสนุก ฯลฯ มีผู้คนจำนวนมากทั้งในและต่างประเทศมาทำกิจกรรมกันที่นี่

นอกจากนั้น มาคุฮาริเมสเสะยังเป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬา 7 ประเภทของโตเกียวโอลิมปิกและพาราลิมปิกในปี 2020 อีกด้วย

4.โรงเรียนนานาชาติมาคุฮาริ

โรงเรียนนานาชาติมาคุฮาริ (ชั้นอนุบาลและชั้นประถม) เป็นโรงเรียนที่เปิดรับเด็กต่างชาติและชาวญี่ปุ่นที่กลับมาจากต่างประเทศ ยกเว้นวิชาภาษาญี่ปุ่นแล้วจะดำเนินการสอนวิชาต่างๆ ด้วยภาษาอังกฤษทั้งหมด

สภาพแวดล้อมทางการศึกษาที่พรั่งพร้อม ไม่ว่าจะเป็นห้องเรียนที่มีจำนวนนักเรียนน้อย อาคารเรียนและสนามกว้างขวาง  สื่อการเรียนที่หลากหลายและเครื่องมือ IT ล้ำสมัย จะสร้างเสริมความเป็นนานาชาติให้กับเด็กๆ ให้เติบใหญ่เป็นบุคลากรที่จะมีบทบาทสำคัญในโลกและเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่อไป

5.พื้นที่แห่งการสร้างสรรค์ความรู้ที่จะเป็นผู้นำโลก-คาสึสะอะคาเดมี่ปาร์ค

กำลังเดินหน้าสร้างฐานการวิจัยและพัฒนาในระดับสากลที่ได้รวบรวมเอาโรงงานและสถาบันวิจัยสาขาอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยที่เป็นกิจการภาคเอกชนทั้ง 17 บริษัท เช่น เทคโนโลยีชีวภาพ วัสดุใหม่ ฯลฯ เอาไว้ โดยมีสถาบันวิจัย DNA คาสึสะเป็นศูนย์กลาง ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ห่างจากกรุงโตเกียวโดยขับรถยนต์เพียง 50 นาที

สร้างเมืองที่ประชากรชาวต่างชาติสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย

เดินหน้าในการจัดเตรียมสิ่งแวดล้อมในการดำรงชีวิต เช่น การศึกษา, การรักษาพยาบาล, ที่อยู่อาศัย ฯลฯ และการแจ้งข้อมูลข่าวสารหลากหลายภาษา เพื่อให้ประชากรในจังหวัดที่ถือสัญชาติต่างประเทศที่มีอยู่มากกว่า 1.2 ล้านคน สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างสบายใจในฐานะสมาชิกของชุมชน